การดูแลสระว่ายน้ำในช่วงหน้าฝน

     การดูแลสระว่ายน้ำในช่วงหน้าฝนนับว่าเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างมากสำหรับคนที่มีสระว่ายน้ำ เนื่องจากฝนตกแล้ว อาจทำให้เกิดสิ่งสกปรกในสระว่ายน้ำ ซึ่งจะทำให้คุณภาพน้ำลดลง อาจจะเกิดปัญหาตามมา เช่น ค่าน้ำเปลี่ยน  สระว่ายน้ำมีตะกอน หรือตะไคร่น้ำ ดังนั้นการดูแลสระว่ายน้ำในช่วงหน้าฝนเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม สำหรับบทความนี้จะมาแนะนำเทคนิคดูแลสระว่ายน้ำช่วงหน้าฝนและ ข้อเสียจากการไม่ดูแลสระว่ายน้ำในช่วงหน้าฝน และวิธีการแก้ปัญหาสำหรับสระว่ายน้ำที่ไม่ได้รับการดูแลในช่วงหน้าฝน กันค่ะ

ข้อเสียของการไม่ดูแลสระว่ายน้ำในช่วงหน้าฝน

  • น้ำขุ่นและสกปรก  เนื่องจากฝุ่น ใบไม้ และเศษขยะจะเข้าสระว่ายน้ำทำให้น้ำขุ่นและสกปรก และการเจริญเติบโตของเชื้อโรคจากน้ำที่ไม่ได้รับการดูแลอาจกลายเป็นแหล่งเพาะเชื้อโรค เช่น แบคทีเรีย  และไวรัส ซึ่งอาจทำให้เกิดการติดเชื้อได้

  • การเจริญเติบโตของตะไคร่ น้ำที่ไม่สะอาดและมีค่า pH ที่ไม่สมดุลจะส่งเสริมการเจริญเติบโตของตะไคร่ ทำให้น้ำมีสีเขียวและลื่นได้ ทำให้ยากในการทำความสะอาด การกำจัดตะไคร่ที่เจริญเติบโตมากเกินไปจะต้องใช้เวลามากขึ้นและอาจต้องใช้สารเคมีมากขึ้น

  • ความเสียหายของระบบกรอง สิ่งสกปรกที่สะสมในน้ำจะทำให้ระบบกรองอุดตัน ทำให้ประสิทธิภาพการกรองน้ำลดลงและอาจต้องซ่อมแซมหรือเปลี่ยนใหม่ หากไม่ปิดระบบกรองเมื่อไม่ใช้งาน ระบบกรองอาจทำงานหนักเกินไปและมีอายุการใช้งานที่สั้น

  • ค่าใช้จ่ายในการฟื้นฟู การทำความสะอาดสระที่สกปรกและมีตะไคร่จะต้องใช้สารเคมีและอุปกรณ์ทำความสะอาดมากขึ้น และต้องมีค่าซ่อมแซมหากไม่ดูแลรักษาอย่างต่อเนื่องอาจทำให้เกิดความเสียหายที่ต้องใช้ค่าใช้จ่ายสูง

  • ความเสี่ยงต่อสุขภาพ การติดเชื้อจากน้ำที่สกปรกและมีเชื้อโรคอาจทำให้ผู้ใช้งานสระเสี่ยงต่อการติดเชื้อทางผิวหนังและโรคอื่น ๆ เช่น การติดเชื้อทางตา หู และระบบทางเดินหายใจ และยังก่อให้เกิดอาการแพ้และระคายเคือง สารปนเปื้อนในน้ำสามารถทำให้เกิดอาการแพ้และระคายเคืองผิวหนังได้

  • ความเสี่ยงต่อโครงสร้างสระ น้ำที่มีค่า pH ไม่สมดุลสามารถทำให้วัสดุที่ใช้สร้างสระเสื่อมสภาพได้เร็วยิ่งขึ้น  ความเสียหายที่ไม่ได้รับการซ่อมแซมอาจทำให้สระรั่วซึม ซึ่งอาจต้องใช้ค่าใช้จ่ายมากในการแก้ไข

วิธีการแก้ปัญหาสำหรับสระว่ายน้ำที่ไม่ได้รับการดูแลในช่วงหน้าฝน

  • ตรวจสอบและปรับสมดุลน้ำ ต้องมั่นวัดค่า pH คลอรีน  ใช้ชุดทดสอบน้ำเพื่อวัดค่าน้ำและปรับค่า pH ให้อยู่ในช่วง 7.2-7.6 โดยการเติมสารปรับค่า pH เพิ่มคลอรีนหรือสารฆ่าเชื้อโรคในน้ำเพื่อกำจัดแบคทีเรียและสิ่งมีชีวิต

  • ตรวจเช็คค่าเกลือบ่อยๆ ค่าเกลือสูงเกินไปทำให้เกิดการระคายเคืองผิวหนังและดวงตา และเกิดการกัดกร่อนอุปกรณ์เนื่องจากความเข้มข้นของเกลือที่สูงสามารถทำให้อุปกรณ์ในสระ เช่น ปั๊มและถังกรอง เกิดการกัดกร่อนได้เร็วขึ้นแต่ถ้าหากค่าเกลือต่ำเกินไป อาจทำให้เครื่องผลิตคลอรีนจากเกลือ (Salt Chlorinator) ทำงานไม่ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ทำให้ระดับคลอรีนในสระต่ำและไม่สามารถฆ่าเชื้อโรคได้อย่างเพียงพอ

  • คุณภาพน้ำไม่ดี หากไม่มีการผลิตคลอรีนเพียงพอ น้ำในสระอาจกลายเป็นที่สะสมของเชื้อโรคและตระไคร่ 

  • การเติมน้ำใหม่ เมื่อน้ำมีการระเหยหรือเสียมากเกินไป อาจต้องเติมน้ำใหม่เข้าไปเพื่อรักษาระดับน้ำที่เหมาะสม

  • ป้องกันการเกิดตะไคร่น้ำ ใช้สารป้องกันการเกิดตะไคร่น้ำ (Algaecide) เพื่อลดการเจริญเติบโตของตะไคร่น้ำ 

  • ทำความสระอาดสระว่ายน้ำบ่อยขึ้น   ถ้าหากสระว่ายน้ำที่ไม่ได้รับการดูแล จะทำให้เป็นที่สะสมของเชื้อโรคและเกิดตะไคร่ และยากต่อการทำความสะอาด

เทคนิคดูแลสระว่ายน้ำช่วงหน้าฝน

  • ปิดสระว่ายน้ำ เมื่อไม่ใช้งาน ควรใช้ผ้าคลุมสระว่ายน้ำเพื่อป้องกันไม่ให้ฝน สารเคมี และสิ่งสกปรกต่างๆ เข้ามาในสระ

  • ตรวจสอบคุณภาพน้ำ ควรตรวจสอบระดับคลอรีน ค่า pH และสารเคมีอื่นๆ ในสระว่ายน้ำอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้มั่นใจว่าน้ำในสระยังคงสะอาดและปลอดภัย

  • เติมสารเคมี ปรับค่า pH และเติมคลอรีนให้เหมาะสม เพื่อควบคุมคุณภาพน้ำและป้องกันการเติบโตของสาหร่ายและแบคทีเรีย

  • ทำความสะอาดพื้นและผนังสระ ควรทำความสะอาดพื้นและผนังสระเป็นประจำ เพื่อกำจัดตะกอนและสิ่งสกปรกที่อาจสะสมอยู่

  • ตรวจสอบระบบกรองน้ำ  ระบบกรองน้ำเป็นส่วนสำคัญในการรักษาคุณภาพน้ำ ควรตรวจสอบและทำความสะอาดระบบกรองน้ำเป็นประจำ

  • ระบายน้ำส่วนเกิน หากมีฝนตกหนักจนระดับน้ำในสระเพิ่มขึ้น ควรระบายน้ำส่วนเกินออก เพื่อรักษาระดับน้ำให้เหมาะสม

  • ตรวจสอบและซ่อมแซมรอยรั่ว ควรตรวจสอบรอยรั่วและทำการซ่อมแซมทันที เพื่อป้องกันการสูญเสียน้ำและปัญหาอื่นๆ ที่อาจเกิดขึ้น

  • เพิ่มความปลอดภัย ควรตรวจสอบความปลอดภัยรอบๆ สระว่ายน้ำ เช่น การติดตั้งไฟฟ้า กันลื่น เป็นต้น เพื่อป้องกันอุบัติเหตุ

   หลังจากได้รับเทคนิคดูแลสระว่ายน้ำช่วงหน้าฝนกันแล้ว ทุกคนทราบกันไหมคะ ว่าสระว่ายน้ำของเราต้องมีค่า ph สระว่ายน้ำที่เหมาะสม อยู่ที่เท่าไหร่ ? ถึงจะต้องเติมสารเคมี

ค่า ph สระว่ายน้ำที่เหมาะสม สำหรับสระว่ายน้ำ ?

   ควรรักษาค่า ph สระว่ายน้ำให้อยู่ในช่วงที่แนะนำ คือ 7.0 -7.4 เพื่อให้สามารถฆ่าเชื้อโรคได้ดี แต่ค่า ph ระหว่าง 7.0 – 7.4 เป็นค่ามาตรฐานสำหรับสระที่ใช้คลอรีน เป็นสารฆ่าเชื้อโรค ค่า ph ระหว่าง 7.0 – 7.2 จะทำให้การฆ่าเชื้อโรคมีประสิทธิภาพมากขึ้น แต่หากค่า ph สูงกว่า คลอรีนอิสระจะไม่มีประสิทธิภาพ ผู้ดูแลต้องเอาใจใส่ให้มาก ที่จะต้องคอยตรวจสอบค่าเคมีและศึกษาตัวสารเคมีให้เข้าใจก่อนที่จะใช้  เพื่อให้สระว่ายน้ำมีค่า pH ที่เหมาะสมไม่เป็นอันตรายต่อผู้ว่ายน้ำ และการที่ ค่า pH สระว่ายน้ำเหมาะสมนั้น ยังช่วยยืดอายุการใช้งานอุปกรณ์ภายในสระว่ายน้ำให้ไม่เกิดการชำรุดเสียหายอีกด้วย 

   ในช่วงหน้าฝนที่อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย และฝนตกแทบทุกวัน เจ้าของสระว่ายน้ำหลายคนอาจรู้สึกว่าไม่ค่อยได้ใช้งานสระเท่าไหร่ แต่ความจริงแล้ว “หน้าฝน” คือช่วงเวลาที่ควรให้ความสำคัญกับการดูแลสระว่ายน้ำมากที่สุด เพราะหากละเลย อาจทำให้เกิดปัญหาทั้งในด้านคุณภาพน้ำ ความเสียหายของอุปกรณ์ และสุขอนามัยของผู้ใช้งานได้ หากคุณใส่ใจการดูแลสระว่ายน้ำในช่วงหน้าฝนอย่างถูกวิธี ไม่เพียงแต่จะรักษาคุณภาพน้ำให้ปลอดภัยกับผู้ใช้ แต่ยังช่วยยืดอายุการใช้งานของอุปกรณ์ และลดค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาในระยะยาวอีกด้วย

Recent Posts

ทำความรู้จักกับสระว่ายน้ำระบบเกลือคืออะไร

ทำไมน้ำในสระว่ายน้ำหลายๆ ที่ดูใสสะอาดอยู่ตลอดเวลา ทั้งๆ ที่ไม่ได้มีการเติมหรือใส่คลอรีนลงไปในสระว่ายน้ำแต่น้ำก็ยังมีสภาพดีอยู่เสมอ

อ่านเพิ่มเติม

รวมไฟสระว่ายน้ำ LED ราคาสุดคุ้ม

สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการติดตั้งอุปกรณ์ส่องสว่างอย่าง “ไฟ LED ใต้น้ำ” เพื่อให้มุมที่แสงส่องไม่ถึงเป็นจุดที่ปลอดภัยไม่คลาดสายตาจากผู้คน

อ่านเพิ่มเติม

ทำความรู้จักกับสระว่ายน้ำระบบเกลือคืออะไร

ทำไมน้ำในสระว่ายน้ำหลายๆ ที่ดูใสสะอาดอยู่ตลอดเวลา ทั้งๆ ที่ไม่ได้มีการเติมหรือใส่คลอรีนลงไปในสระว่ายน้ำแต่น้ำก็ยังมีสภาพดีอยู่เสมอ

รวมไฟสระว่ายน้ำ LED ราคาสุดคุ้ม

สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการติดตั้งอุปกรณ์ส่องสว่างอย่าง “ไฟ LED ใต้น้ำ” เพื่อให้มุมที่แสงส่องไม่ถึงเป็นจุดที่ปลอดภัยไม่คลาดสายตาจากผู้คน

JESTA อุปกรณ์สระว่ายน้ำ

JESTA

อุปกรณ์สระว่ายน้ำ

สนใจเป็นตัวแทนจำหน่ายอุปกรณ์สระว่ายน้ำ

สนใจเป็นตัวแทนจำหน่าย
อุปกรณ์สระว่ายน้ำ